The owners of Raya Resort are passionate about the local environment, and take great care to preserve this beauty spot on the Cha-am beachfront. The unique charm and character of the luxury resort in Cha-am is reminiscent of a bygone era with unspoiled nature as far as the eye can see and renovated architecture that dates back to the reign of King Rama V. The old-world charm is complimented by luxurious in-room comforts and gracious warm hospitality that is heartfelt and personal.
Raya Resort Cha-am is the winner of the Thailand Boutique Award 2010 in the criteria of Outstanding Award for Renovation and Modification in the Southern Region.
Raya Resort Cha-am has revamped a 14 rai, creating a 16 room and villa complex nestled in a lush, decades-old garden. Featuring a prime location, Raya Resort is one of the few high-end retreat options on Cha-am's beachfront.
นโยบายความเป็นส่วนตัวในการใช้งานกล้องวงจรปิด (CCTV)
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่ บริษัท รายา รีสอร์ท ชะอำ จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "บริษัท" "เรา" หรือ "ของเรา") ได้ใช้อุปกรณ์ CCTV พร้อมกับระบบต่างๆ สำหรับการตรวจสอบภายในพื้นที่ใดเป็นการเฉพาะ รวมถึงพื้นที่รอบๆ บริเวณของสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใดๆ เพื่อการป้องกันชีวิต อนามัย และทรัพย์สิน โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง กรรมการบริษัท คู่ค้า ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใดๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน และระบุถึงวิธีการในการจัดการหรือการใช้ระบบ CCTV ของเรา ทั้งนี้ เราอาจทำการแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายฉบับนี้ได้ทุกเมื่อและจะแจ้งถึงการแก้ไขดังกล่าวให้ท่านได้ทราบเท่าที่จะดำเนินการได้
1. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่เราเก็บรวบรวม
เราจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งซึ่งสามารถที่จะสามารถจดจำได้ว่าเป็นท่าน เสียงของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาทิ ยานพาหนะ เมื่อเข้าไปในพื้นที่ที่ได้ทำการตรวจสอบภายในสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใดๆ ของเรา ผ่านระบบและอุปกรณ์ CCTV (“ข้อมูลจาก CCTV”)
2. เหตุใดเราจึงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.1 เราอาจทำการรวบรวม เก็บภาพ ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใดๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึกการเก็บบันทึก การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การดัดแปลง การทำลาย การลบ การกู้คืน การรวม การทำสำเนา การส่งผ่าน การเก็บรักษา การถอน การปรับปรุง การเพิ่มเติม ต่อข้อมูลจาก CCTV เกี่ยวกับท่านและข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน สำหรับ "วัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV" ตามรายการที่ระบุไว้ด้านล่าง จะกระทำบนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่อชีวิต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามความยินยอมที่ได้รับ หรือตามฐานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศไทย (โดยที่ผลประโยชน์เหล่านั้นจะไม่เป็นการก้าวล่วงต่อสิทธิและผลประโชน์ของบุคคลใด) ซึ่งอาจพิจารณาได้ตามกรณีดังนี้
• เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย ความปลอดภัยอนามัยส่วนบุคคล และ/หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
• เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในบริเวณ และเพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคาร บุคลากร พนักงาน และผู้มาติดต่อ รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูล ของเราที่ตั้งอยู่หรือเก็บไว้ในสถานที่นั้นๆ
• เพื่อการปกป้อง/ป้องกันสถานที่ อาคาร พื้นที่ต่างๆ และทรัพย์สินของเรา จากความเสียหาย การหยุดชะงัก การทำลาย และอาชญากรรมอื่นๆ
• เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นในขณะทำการลงโทษทางวินัยหรือการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์
• เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนสอบสวนหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียน และการแจ้งเบาะแส
• เพื่อนำไปใช้ในการพิสูจน์หรือหักล้างในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงาน
• เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของเรา และ/หรือ การให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย สำหรับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พวกเราเล็งเห็นว่าการใช้ระบบ CCTV เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้เราสามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่เหล่านั้นได้
• เพื่อการใช้สิทธิของเราหรือปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราในกรณีที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพื่อระงับยับยั้ง ป้องกันและตรวจจับการประพฤติมิชอบ อาชญากรรมหรือการฝ่าฝืนกฎหมาย ติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานการประพฤติมิชอบหรืออาชญากรรมในร้านค้าของเราและเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของธุรกิจของเรา พวกเราจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราและของบุคคลที่สาม และสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของท่านที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลบนระบบ CCTV ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ตามแต่กรณี เราจะพยายามระบุถึงขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสมดุลที่เหมาะตามแต่สมควร
2.2 เราจะติดตั้งอุปกรณ์ CCTV ที่จุดสำคัญภายในสถานที่ อาคารและพื้นที่ต่างๆ ของเรา ยกเว้นบางพื้นที่ เช่น ภายในห้องพักส่วนบุคคล ห้องสุขา และห้องอาบน้ำ
2.3 ระบบ CCTV ของเราเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์/ระบบเกิดความขัดข้อง และ/หรือต้องทำการซ่อมบำรุง
2.4 เราจะจัดวางป้ายตามความเหมาะสมในสถานที่ที่มีการใช้งานระบบ CCTV
3. บุคคลใดที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านในระบบ CCTV ไว้เป็นความลับ และจะทำการเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเฉพาะเพียงบุคคลภายนอกอื่นๆ ที่จะถูกคัดเลือกอย่างระมัดระวังในเวลานี้หรือในอนาคต ผู้ได้รับอนุญาต พันธมิตรกิจการร่วมค้า และ/หรือผู้ให้บริการ (ซึ่งอาจตั้งอยู่ในต่างประเทศ) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV ตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้
3.2 บุคคลภายนอกซึ่งเราอาจเปิดเผยข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งรวมถึงการ หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแล (เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือแก่องค์กรบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการสอบสวนและดำเนินคดีทางแพ่งหรือทางอาญา) และผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (ตามขั้นตอนที่จำเป็นของเราเพื่อให้แน่ใจว่า เราจะให้การคุ้มครองต่อสุขภาพและความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สินของท่าน) อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลระบบ CCTV นั้น อาจเป็นการเข้าถึงหรือเปิดเผยได้เท่าที่จำเป็นเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ภายใต้หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ 3.2 นี้ หรือเพื่อตอบสนองการร้องขอของบุคคลตามกฎหมายภายใต้ข้อ 2.1
4. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
เราอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคลและทรัพย์สินของท่าน) ไปยังผู้ให้บริการบุคคลที่สามที่อยู่นอกประเทศไทย และการเปิดเผยหรือถ่ายโอนดังกล่าวจะกระทำต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน หรือมีพื้นฐานตามกฎหมายอื่นที่บังคับให้กระทำตามที่กฎหมายอนุญาตไว้ (เช่นเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาระหว่างเรากับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) โดยที่ประเทศปลายทางดังกล่าวอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เราจะทำให้มั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้กระทำตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้วก่อนจะดำเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
5. มาตรการรักษาความปลอดภัย
5.1 เราจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต
5.2 เราจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของเราเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
6. ระยะเวลาในการที่เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของเราตามระยะเวลา 60-90 วันวนลูป เท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากเราไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป เราจะทำการลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของเรา อย่างไรก็ตามเราอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย
7. ท่านมีสิทธิอย่างไรเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึง และ/หรือขอรับสำเนา โอนย้าย แก้ไข ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนในข้อมูลส่วนบุคคล บางประเภทของท่านที่เรามี ระงับและ/หรือคัดค้านกิจกรรมบางประเภทที่เรามีและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่การดำเนินการใดของเรากระทำภายใต้ความยินยอมของท่าน ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมของท่านได้ แต่อาจเป็นสาเหตุให้เราไม่สามารถให้บริการของเราแก่ท่านได้อย่างเต็มที่ ท่านอาจมีสิทธิร้องขอให้เราเปิดเผยว่าเราได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่านได้อย่างไร อีกทั้งยังอาจยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายที่บังคับใช้
8. รายละเอียดการติดต่อเรา
หากท่านมีข้อซักถามหรือข้อสงสัยประการใด หรือมีความประสงค์ที่จะสิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลระบบ CCTV โปรดติดต่อเราหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ที่ [email protected]